คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) มีอะไรบ้าง

คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) มีอะไรบ้าง?

คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) คืออะไร ?

คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) คือ คลังที่ตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ในการเก็บรักษาของที่นำเข้าจากต่างประเทศ การบรรจุหรือแบ่งบรรจุ การขนถ่ายสินค้า การกระจายสินค้า และเพื่อกิจการอื่น ๆ ที่อธิบดีกรมศุลกากรเห็นสมควรอันจะเป็นการช่วยสนับสนุนการผลิต การประกอบอุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป

คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป

1.เป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยผลการดำเนินงานตามที่ปรากฏในงบการเงิน ไม่มียอดขาดทุนสะสม ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • สถานที่ขอจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร และฉะเชิงเทรา ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ
  • สถานที่ขอจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อื่นนอกเหนือจาก 1.1 ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ
  • กรณีตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ

2.มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิในการใช้พื้นที่ที่ขอจัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือในกรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งมีการจดทะเบียนจำนอง ผู้รับจำนองจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ดำเนินการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนได้

3.ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรย้อนหลัง 3 ปีนับแต่วันยื่นคำขอ ทั้งนี้ การกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย ให้หมายความถึง การกระทำความผิดใด ๆ ก็ตามที่กฎหมายได้บัญญัติให้ต้องรับโทษจำคุกรวมอยู่ด้วย

4.ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต

5.ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต เว้นแต่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันยื่นคำขอรับอนุญาตเกิน 3 ปี และกรณีผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล ผู้บริหารของนิติบุคคลต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวด้วย

เงื่อนไขการอนุญาตที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ

  • สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม ต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร และภายในพื้นที่ดังกล่าวต้องมีอาคารเก็บของที่มั่นคงแข็งแรง และมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตารางเมตร หรือตามขนาดพื้นที่ที่อธิบดีเห็นสมควร ซึ่งพนักงานศุลกากรสามารถควบคุมได้โดยสะดวกและรัดกุม
  • ต้องดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบ โดยมีรั้วล้อมรอบ ประตูเข้า – ออกที่มั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานสำหรับพนักงานศุลกากร ซึ่งภายในห้องทำงานต้องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ดังกล่าวกับระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนดไว้
  • มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงกำกับดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามความจำเป็นที่กรมศุลกากรกำหนด
  • มีระบบควบคุมสินค้าคงคลังที่สามารถตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยสามารถจัดทำรายงานทางบัญชีตามที่กรมศุลกากรกำหนด และพนักงานศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ระยะเวลาในการเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป

การเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บน สามารถเก็บได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันนำเข้า

การตรวจสอบสิทธิประโยชน์คลังสินค้าทัณฑ์บน

1.การจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด ยื่นต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี โดยให้ถือวันที่พนักงานศุลกากรเข้าทำการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นวันปิดงวดบัญชี

2.การจัดส่งงบการเงิน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดส่งสำเนางบการเงิน ตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแล้ว ต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี โดยให้ถือวันที่พนักงานศุลกากร เข้าทำการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นวันปิดงวดบัญชี

3.การตรวจนับของคงเหลือ กำหนดให้ตรวจนับของคงเหลือในคลังสินค้าทัณฑ์บนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

การทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน และการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน

เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตพร้อมที่จะเปิดดำเนินการคลังสินค้าทัณฑ์บน ต้องทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน เพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่กรมศุลกากร และเพื่อผูกพันให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กรมศุลกากรกำหนดขึ้น พร้อมทั้งวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อค้ำประกันความรับผิดในค่าภาษีอากร ค่าภาระติดพัน ค่าเสียหายอื่นใดตามสัญญาประกันและทัณฑ์บน

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมรายปีการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน จำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาท)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ประกาศกรมศุลกากร ที่ 122 /2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป

คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า

คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า


1.เป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียน และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยผลการดำเนินงานตามที่ปรากฏในงบการเงินไม่มียอดขาดทุนสะสม ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท
  • เป็นผู้ดำเนินกิจการที่มีวัตถุประสงค์หลักในการผลิตเพื่อส่งออก มีการว่าจ้างแรงงานเป็นจำนวนมากหรือใช้เทคโนโลยีการผลิตสูง


2.ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรย้อนหลัง 3 ปีนับแต่วันที่ยื่นคำขอ ทั้งนี้ การกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมาย ให้หมายความถึง การกระทำความผิดใด ๆ ก็ตามที่กฎหมายได้บัญญัติให้ต้องรับโทษจำคุกรวมอยู่ด้วย

1.มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิในการใช้พื้นที่ที่ขอจัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือในกรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งมีการจดทะเบียนจำนอง ผู้รับจำนองจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ดำเนินการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนได้

2.ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต

3.ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต เว้นแต่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันยื่นคำขอรับอนุญาตเกิน 3 ปี และกรณีผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล ผู้บริหารของนิติบุคคลต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวด้วย

เงื่อนไขการอนุญาตที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ

1.สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม และมีอาคารเก็บของที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งพนักงานศุลกากรสามารถควบคุมได้โดยสะดวกและรัดกุม

2.ต้องดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบ โดยมีรั้วล้อมรอบ เว้นแต่โดยสภาพภูมิประเทศของกิจการ ไม่จำเป็นต้องมีรั้ว แต่ต้องมีประตูเข้า – ออกที่มั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานสำหรับพนักงานศุลกากรซึ่งภายในห้องทำงานต้องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ดังกล่าวกับระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนดไว้

3.มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงกำกับดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามความจำเป็นที่กรมศุลกากรกำหนด

4.มีระบบควบคุมสินค้าคงคลัง ที่สามารถตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยสามารถจัดทำรายงานทางบัญชีตามที่กรมศุลกากรกำหนด และพนักงานศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ระยะเวลาในการเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า

การเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บน สามารถเก็บได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันนำเข้า

การยื่นสูตรการผลิต

ผู้ได้รับใบอนุญาตยื่นสูตรการผลิตก่อนการส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาออกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรเพื่อส่งของออกไปนอกราชอาณาจักรหรือก่อนการโอนหรือจำหน่ายออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า

การตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร

1.การจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน ตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนดเป็นรายงวด 6 เดือน โดยให้ถือวันที่ 30 มิถุนายน และวันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันปิดงวดบัญชี

2.การจัดส่งงบการเงิน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดส่งสำเนางบการเงินตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแล้ว ภายใน 180 วันนับแต่วันสิ้นงวดระยะเวลาบัญชีกับฝ่ายตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน ส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน

3.การตรวจนับของคงเหลือ กำหนดให้ตรวจนับของคงเหลือในคลังสินค้าทัณฑ์บนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

4.การยื่นสูตรการผลิต กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตยื่นสูตรการผลิต ก่อนการส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาออกเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือก่อนการโอนหรือจำหน่ายออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า และต้องยื่นแก้ไขสูตรการผลิต ตรวจสอบการผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลง ได้ที่ฝ่ายตรวจสอบสูตรการผลิต ส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน และฝ่ายตรวจสอบสูตรการผลิตจะพิจารณาสูตรการผลิตให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

การทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน และการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน

เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตพร้อมที่จะเปิดดำเนินการคลังสินค้าทัณฑ์บน ต้องทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน เพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่กรมศุลกากรและเพื่อผูกพันให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กรมศุลกากรกำหนดขึ้น พร้อมทั้งวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อค้ำประกันความรับผิดในค่าภาษีอากร ค่าภาระติดพัน ค่าเสียหายอื่นใดตามสัญญาประกันและทัณฑ์บน

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมรายปีการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน จำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท)

รายละเอียดเพิ่มเติม

อ่านได้ที่: ประกาศกรมศุลกากร ที่ 127 /2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า

คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ

คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ

1.เป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยผลการดำเนินงานตามที่ปรากฏในงบการเงินไม่มียอดขาดทุนสะสม ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • สถานที่ขอจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ
  • สถานที่ขอจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อื่นนอกเหนือจาก 1.1 ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทกิจการ

2.มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิในการใช้พื้นที่ที่ขอจัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือในกรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งมีการจดทะเบียนจำนอง ผู้รับจำนองจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ดำเนินการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนได้

3.ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรย้อนหลัง 3 ปี นับแต่วันที่ยื่นคำขอ ทั้งนี้ การกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายให้หมายความถึง การกระทำความผิดใด ๆ ก็ตามที่กฎหมายได้บัญญัติให้ต้องรับโทษจำคุกรวมอยู่ด้วย

4.ไม่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต

5.ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต เว้นแต่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันยื่นคำขอรับอนุญาตเกิน 3 ปี และกรณีผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล ผู้บริหารของนิติบุคคลต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวด้วย

เงื่อนไขการอนุญาตที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ


สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม และมีอาคารเก็บของที่มั่นคงแข็งแรง ซึ่งพนักงานศุลกากรสามารถปฏิบัติงานได้โดยสะดวกและรัดกุมภายในพื้นที่ดังกล่าว จะต้องจัดให้มีสถานที่จัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการแยกต่างหากจากสถานที่เก็บและตรวจของ

ต้องดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบ โดยมีรั้วล้อมรอบ ประตูเข้า – ออกที่มั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานสำหรับพนักงานศุลกากรซึ่งภายในห้องทำงานต้องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ดังกล่าวกับระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนด

มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามความจำเป็นที่กรมศุลกากรกำหนด

มีระบบควบคุมสินค้าคงคลังที่สามารถตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยสามารถจัดทำรายงานทางบัญชีตามที่กรมศุลกากรกำหนด และพนักงานศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ระยะเวลาในการเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ

ของที่นำเข้าเก็บหรือนำเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการในคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ จะต้องนำของออกภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นสุดการจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ

การตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร

1.การจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด ยื่นต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี โดยให้ถือวันที่พนักงานศุลกากรเข้าทำการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นวันปิดงวดบัญชี

2.การจัดส่งงบการเงิน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาต จัดส่งสำเนางบการเงินตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแล้ว ต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี โดยให้ถือวันที่พนักงานศุลกากร เข้าทำการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรเป็นวันปิดงวดบัญชี


3.การตรวจนับของคงเหลือ กำหนดให้ตรวจนับของคงเหลือในคลังสินค้าทัณฑ์บนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

การทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน และการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน

เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตพร้อมที่จะเปิดดำเนินการคลังสินค้าทัณฑ์บน ต้องทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน เพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่กรมศุลกากรและเพื่อผูกพันให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กรมศุลกากรกำหนดขึ้น พร้อมทั้งวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อค้ำประกันความรับผิดในค่าภาษีอากร ค่าภาระติดพัน ค่าเสียหายอื่นใดตามสัญญาประกันและทัณฑ์บน

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมรายปีการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน จำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาท)

รายละเอียดเพิ่มเติม

ประกาศกรมศุลกากร ที่ 125 /2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ

คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร

คุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร

1.เป็นรัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการ หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนและมีฐานะการเงินที่มั่นคง โดยผลการดำเนินงานตามที่ปรากฏในงบการเงินไม่มียอดขาดทุนสะสม ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อการเก็บของสำหรับร้านค้าปลอดอากร ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน และไม่มีข้อจำกัดในการออกเสียงลงมติของผู้ถือหุ้น หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทของกิจการ
  • คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อขาย ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน และไม่มีข้อจำกัดในการออกเสียงลงมติของผู้ถือหุ้น หรือมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วในจำนวนที่อธิบดีเห็นว่าเหมาะสมกับประเภทของกิจการ

2.ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการศุลกากรย้อนหลัง 3 ปีนับแต่วันยื่นคำขอ ทั้งนี้ การกระทำความผิดอย่างร้ายแรงตามกฎหมายให้หมายความถึงการกระทำความผิดใด ๆ ก็ตามที่กฎหมายได้บัญญัติให้ต้องรับโทษจำคุกรวมอยู่ด้วย

3.มีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครอง หรือสิทธิในการใช้พื้นที่ที่ขอจัดตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือในกรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งมีการจดทะเบียนจำนอง ผู้รับจำนองจะต้องมีหนังสือยินยอมให้ดำเนินการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนได้

4.ไม่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต

5.ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประเภทที่ได้ยื่นขออนุญาต เว้นแต่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันยื่นคำขออนุญาตเกิน 3 ปี และกรณีผู้ยื่นคำขอเป็นนิติบุคคล ผู้บริหารของนิติบุคคลต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวด้วย

เงื่อนไขการอนุญาตที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ

สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม และมีอาคารเก็บของที่มั่นคงแข็งแรง

ต้องดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบโดยมีรั้วล้อมรอบ เว้นแต่โดยสภาพภูมิประเทศของกิจการ ไม่จำเป็นต้องมีรั้ว แต่ต้องมีประตูเข้า – ออกที่มั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานสำหรับพนักงานศุลกากร ซึ่งภายในห้องทำงานต้องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสาร ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ดังกล่าวกับระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนดไว้

มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือ เครื่องใช้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงกำกับดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามความจำเป็นที่กรมศุลกากรกำหนด

มีระบบควบคุมสินค้าคงคลังที่สามารถตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยสามารถจัดทำรายงานทางบัญชีตามที่กรมศุลกากรกำหนด และพนักงานศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมืองกรณีส่งมอบของ ณ จุดส่งมอบที่กำหนด (Pick-up Counter) ผู้ขอรับใบอนุญาตจะต้องระบุว่าจะส่งมอบของที่ขาย ณ จุดส่งมอบของที่ใด

จุดส่งมอบของต้องตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ผู้ซื้อจะเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
กรณีผู้ขอใบอนุญาตมิใช่นิติบุคคลเดียวกับผู้ให้บริการจุดส่งมอบของ ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นเอกสารสัญญาบริการระหว่างผู้ขอรับใบอนุญาตกับผู้ให้บริการจุดส่งมอบของ
ต้องมีสถานที่สำหรับให้พนักงานศุลกากรตรวจสอบของที่ส่งมาจากร้านค้าปลอดอากรขาออกในเมืองเพื่อเตรียมส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดเก็บของที่รอการส่งมอบ
ระยะเวลาในการเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร
การเก็บของที่นำมาเพื่อแสดงและขายในคลังสินค้าทัณฑ์บน สามารถเก็บได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันนำเข้า

การตรวจสอบสิทธิประโยชน์คลังสินค้าทัณฑ์บน
การจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงาน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินงานตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนดเป็นรายไตรมาส ยื่นต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 30 วันนับแต่วันปิดงวดบัญชี โดยให้ถือวันที่พนักงานศุลกากร เข้าทำการตรวจนับของคงเหลือเป็นวันปิดงวดบัญชี
การจัดส่งงบการเงิน กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดส่งสำเนางบการเงินตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ซึ่งผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรับรองแล้ว ต่อส่วนตรวจสอบคลังสินค้าทัณฑ์บน กองสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ภายใน 180 วันนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
การตรวจนับของคงเหลือ กำหนดให้ตรวจนับของคงเหลือในคลังสินค้าทัณฑ์บนเป็นรายไตรมาส
การทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน และการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตพร้อมที่จะเปิดดำเนินการคลังสินค้าทัณฑ์บน ต้องทำสัญญาประกันและทัณฑ์บน เพื่อประกันความเสียหายที่อาจเกิดแก่กรมศุลกากร และเพื่อผูกพันให้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กรมศุลกากรกำหนดขึ้น พร้อมทั้งวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด ในวงเงินร้อยละ 50 ของค่าภาษีอากรของคงเหลือสิ้นงวดบัญชีรายไตรมาส หรือตามที่กรมศุลกากรจะเห็นสมควร เพื่อค้ำประกันความรับผิดในค่าภาษีอากร ค่าภาระติดพัน ค่าเสียหายอื่นใดตามสัญญาประกันและทัณฑ์บน

ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมรายปีการจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน จำนวน 30,000 บาท (สามหมื่นบาท)

เอกสารแนบ
ประกาศกรมศุลกากรที่ 44 /2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร

Scroll to Top
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า